ตะลุยญี่ปุ่น ไหว้ขอพรวัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji Temple)

วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji Temple) และประวัติ

ตะลุยญี่ปุ่น ไหว้ขอพรที่ วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji Temple) พร้อมประวัติอย่างละเอียด

วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji Temple, 金閣寺) หรือที่รู้จักในชื่อ “วัดปราสาททอง” เป็นวัดพุทธในนิกายเซน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเกียวโต เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของปราสาทสีทองที่สะท้อนกับผิวน้ำในบึงกว้าง ทำให้เกิดภาพที่งดงามตรึงใจนักท่องเที่ยว และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1994

ประวัติความเป็นมาของวัดคินคะคุจิ

1. ยุคการก่อสร้าง (ปลายศตวรรษที่ 14)
   วัดคินคะคุจิสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1397 เดิมทีเป็นวิลล่าส่วนตัวของโชกุน อาชิกางะ โยชิมิทสึ (Ashikaga Yoshimitsu) แห่งตระกูลอาชิกางะ หลังจากโชกุนถึงแก่อสัญกรรม วิลล่าแห่งนี้ถูกเปลี่ยนเป็นวัดตามความตั้งใจของโยชิมิทสึที่ต้องการให้สถานที่แห่งนี้เป็นวัดพุทธในนิกายเซน
2. การทำลายและการบูรณะ
   ตัวอาคารหลักของวัดถูกไฟไหม้หลายครั้งในประวัติศาสตร์ โดยครั้งที่ร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1950 เมื่อพระหนุ่มรูปหนึ่งจุดไฟเผาวัดด้วยความหลงผิด วัดได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1955 โดยสร้างให้เหมือนกับต้นฉบับทุกประการ และมีการเคลือบทองคำเปลวที่ปราสาททั้งชั้นสองและชั้นสาม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของวัด
3. ความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรม
   วัดคินคะคุจิเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมยุคมูโรมาจิ (Muromachi Period) ซึ่งเป็นยุคที่วัฒนธรรมเซนและความงดงามแบบเรียบง่ายได้รับความนิยมสูงสุด อาคารหลักของวัดสร้างขึ้นตามแนวคิดของการเชื่อมโยงธรรมชาติ ศาสนา และสถาปัตยกรรมให้เป็นหนึ่งเดียว

สถาปัตยกรรมและจุดเด่นของวัดคินคะคุจิ

1. ปราสาททองคำ (Golden Pavilion)
   ปราสาททองคำเป็นอาคารสามชั้นที่มีความโดดเด่น ชั้นบนสุดของปราสาทเคลือบด้วยทองคำเปลวแท้ทั้งหลัง และบนยอดหลังคามีรูปปั้นนกฟีนิกซ์สีทองตั้งตระหง่าน
   • ชั้นหนึ่ง: สร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบชินเด็น (Shinden-zukuri) ซึ่งเป็นสไตล์ที่นิยมในยุคเฮอัน ใช้ไม้ธรรมชาติเป็นวัสดุหลัก
   • ชั้นสอง: ออกแบบในสไตล์บุเกะ (Buke-zukuri) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบซามูไร
   • ชั้นสาม: เป็นสถาปัตยกรรมแบบเซน เคลือบทองคำเปลวทั้งหมด และใช้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ
2. สระน้ำคีโยจิ (Kyoko-chi Pond)
   สระน้ำคีโยจิเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบปราสาททองคำ ทำให้เกิดภาพสะท้อนของตัวปราสาทบนผิวน้ำ ซึ่งเป็นภาพที่งดงามราวกับภาพวาด โดยรอบสระน้ำยังมีเกาะเล็ก ๆ และโขดหินที่จัดวางตามแนวคิดของสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
3. สวนญี่ปุ่นแบบเซน
   บริเวณรอบ ๆ วัดมีสวนญี่ปุ่นแบบเซนที่ออกแบบอย่างประณีต นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ โขดหิน และสะพานเล็ก ๆ ที่ให้บรรยากาศสงบและผ่อนคลาย
4. หอพระไม้และศาลเจ้าเล็ก ๆ
   ภายในวัดยังมีหอพระไม้และศาลเจ้าเล็ก ๆ หลายแห่งที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ที่ชาวญี่ปุ่นให้ความเคารพนับถือ

การขอพรที่วัดคินคะคุจิ

1. ขอพรเรื่องความร่ำรวยและความสำเร็จ
   เนื่องจากปราสาททองคำเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและความสำเร็จ ผู้คนจึงนิยมมาขอพรเกี่ยวกับความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและความมั่งคั่งทางการเงิน
2. ขอพรเรื่องสุขภาพและความสงบสุขในชีวิต
   นักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธามักจะขอพรให้ตนเองและครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง และมีชีวิตที่สงบสุขปราศจากความทุกข์
3. เสี่ยงเซียมซีและขอพรที่ศาลเจ้า
   ภายในวัดมีศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่ผู้คนสามารถเสี่ยงเซียมซีและขอพรได้ เชื่อกันว่าคำทำนายจากเซียมซีของวัดนี้แม่นยำมาก

เวลาเปิด-ปิด และการเดินทาง

• เวลาเปิดทำการ:
  เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น.
• ค่าเข้าชม:
  400 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 300 เยน สำหรับเด็ก
• การเดินทาง:
  • โดยรถบัส: นั่งรถบัสสาย 101 หรือ 205 จากสถานี Kyoto Station มาลงที่ป้าย Kinkaku-ji Michi แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
  • โดยแท็กซี่: การเดินทางด้วยแท็กซี่จากสถานี Kyoto Station ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทาง

1. การแต่งกาย:
   ควรแต่งกายสุภาพ และสวมรองเท้าที่สะดวกสบาย เนื่องจากต้องเดินชมบริเวณวัดที่ค่อนข้างกว้างขวาง
2. ข้อควรปฏิบัติ:
   • ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัด เช่น ห้ามส่งเสียงดัง และไม่รบกวนผู้อื่นที่กำลังสวดมนต์
   • ห้ามถ่ายภาพในบริเวณที่มีป้ายห้ามถ่ายภาพ และควรเคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
3. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชม:
   ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน) และฤดูใบไม้ร่วง (พฤศจิกายน) เป็นช่วงที่สวยงามที่สุด เนื่องจากสวนรอบวัดจะเต็มไปด้วยดอกซากุระและใบไม้เปลี่ยนสี

ทำไมควรไปวัดคินคะคุจิ

• ความสำคัญทางประวัติศาสตร์:
  วัดคินคะคุจิเป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นในยุคมูโรมาจิ
• สถาปัตยกรรมที่โดดเด่น:
  ปราสาททองคำที่เคลือบทองคำเปลวเป็นเอกลักษณ์ที่หาชมได้ยาก และเป็นภาพที่งดงามตรึงตาตรึงใจ
• บรรยากาศเงียบสงบ:
  การเดินชมสวนญี่ปุ่นแบบเซนรอบ ๆ วัดให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และช่วยให้จิตใจสงบ

วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji Temple) เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกียวโต ด้วยความงดงามของปราสาททองคำที่สะท้อนกับผิวน้ำในบึงกว้าง และบรรยากาศอันเงียบสงบของสวนญี่ปุ่นแบบเซน หากคุณต้องการสัมผัสความงามของศิลปะและวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมถึงไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต วัดคินคะคุจิคือจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบค่ะ 🌸✨