วัดคิโยะมิซุ (วัดนำ้ใส) และประวัติ
Table Of Content
- ประวัติความเป็นมาของวัดคิโยะมิซุ
- 1. การก่อตั้งวัดในยุคนารา (Nara Period)
- 2. การพัฒนาในยุคเฮอัน (Heian Period)
- 3. การปกครองของตระกูลโตกุกาวะและการบูรณะ
- 4. การได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
- จุดเด่นของวัดคิโยะมิซุ
- 1. ระเบียงไม้คิโยะมิซุ (Kiyomizu Stage)
- 2. น้ำศักดิ์สิทธิ์จากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall)
- 3. วิหารหลัก (Hondo)
- 4. ศาลเจ้าจิชุ (Jishu Shrine) – ศาลเจ้าแห่งความรัก
- 5. เจดีย์สามชั้น (Three-Storied Pagoda)
- การขอพรที่วัดคิโยะมิซุ
- เทศกาลสำคัญที่จัดขึ้นที่วัดคิโยะมิซุ
- เวลาเปิด-ปิด และการเดินทาง
- สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทาง
- ทำไมควรไปวัดคิโยะมิซุ

ตะลุยญี่ปุ่น ไหว้ขอพรที่วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu-dera) หรือวัดน้ำใส พร้อมประวัติอย่างละเอียด
วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu-dera, 清水寺) หรือที่เรียกกันว่า “วัดน้ำใส” ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดย UNESCO วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงจาก ระเบียงไม้ขนาดใหญ่ที่ยื่นออกจากตัววัด และทัศนียภาพที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง
ประวัติความเป็นมาของวัดคิโยะมิซุ
1. การก่อตั้งวัดในยุคนารา (Nara Period)
วัดคิโยะมิซุถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 778 (ยุคนารา) โดย พระเคนนัน (Enchin, 延鎮) นักบวชผู้ศรัทธาในพระโพธิสัตว์กวนอิม เชื่อกันว่าพระเคนนันได้รับนิมิตให้นำพาสมณศักดิ์มายังภูเขาโอโตวะ (Otowa Mountain) และพบกับแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลลงมาจากภูเขา จึงสร้างวัดเพื่อบูชาพระโพธิสัตว์กวนอิม
2. การพัฒนาในยุคเฮอัน (Heian Period)
ใน ปี ค.ศ. 798 ขุนนางฟูจิวาระ โนะ คะมาทาริ (Fujiwara no Kamatari) ได้สนับสนุนการสร้างวัดขึ้นใหม่ และในยุคเฮอัน วัดกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
3. การปกครองของตระกูลโตกุกาวะและการบูรณะ
ในยุคเอโดะ (Edo Period, ค.ศ. 1603–1868) โชกุน โตกุกาวะ อิเอมิทสึ (Tokugawa Iemitsu) ได้สั่งให้บูรณะวัด และตัวอาคารหลักที่เราเห็นในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1633
4. การได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ในปี ค.ศ. 1994 วัดคิโยะมิซุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกของ UNESCO ในฐานะส่วนหนึ่งของ กลุ่มวัดและศาลเจ้าในเกียวโตโบราณ
จุดเด่นของวัดคิโยะมิซุ
1. ระเบียงไม้คิโยะมิซุ (Kiyomizu Stage)
- เป็น ไฮไลต์หลักของวัด ระเบียงไม้สร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู แต่ใช้เทคนิคดั้งเดิมของญี่ปุ่น
- สูงประมาณ 13 เมตร จากพื้นดิน และให้วิวที่งดงามของเมืองเกียวโต
- ในสมัยโบราณ มีความเชื่อว่าหากสามารถกระโดดลงจากระเบียงแล้วรอดชีวิต จะสมปรารถนาในสิ่งที่ขอ
2. น้ำศักดิ์สิทธิ์จากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall)
- น้ำตกนี้แบ่งออกเป็น สามสาย แต่ละสายมีความหมายแตกต่างกัน:
- การศึกษาและความสำเร็จ
- สุขภาพและอายุยืน
- ความรักและความสัมพันธ์
- นักท่องเที่ยวสามารถใช้กระบวยตักน้ำเพื่อดื่มและขอพรได้
3. วิหารหลัก (Hondo)
- เป็นที่ประดิษฐานของ พระโพธิสัตว์กวนอิม 11 พักตร์ (Kannon Bodhisattva) ซึ่งเป็นองค์พระศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด
- เชื่อกันว่าพระโพธิสัตว์กวนอิมของวัดนี้ให้พรในเรื่อง ความเมตตา การปกป้อง และความสมหวัง
4. ศาลเจ้าจิชุ (Jishu Shrine) – ศาลเจ้าแห่งความรัก
- เป็นศาลเจ้าชินโตที่อยู่ภายในบริเวณวัด อุทิศให้แก่ เทพโอคุนินุชิ (Okuninushi no Mikoto) เทพเจ้าแห่งความรัก
- มี “ศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งความรัก” (Love Stones) ซึ่งหากสามารถเดินจากหินก้อนหนึ่งไปยังอีกก้อนหนึ่งได้โดยไม่หลงทาง เชื่อว่าจะสมหวังในความรัก
5. เจดีย์สามชั้น (Three-Storied Pagoda)
- เป็นหนึ่งในเจดีย์ที่สูงที่สุดในเกียวโต และเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม
การขอพรที่วัดคิโยะมิซุ
- ขอพรให้ชีวิตราบรื่นและประสบความสำเร็จ
- การสักการะพระโพธิสัตว์กวนอิมและดื่มน้ำจากน้ำตกโอโตวะสามารถช่วยให้ชีวิตราบรื่นและมีความเจริญรุ่งเรือง
- ขอพรเรื่องสุขภาพและอายุยืน
- น้ำศักดิ์สิทธิ์จากน้ำตกโอโตวะสามารถช่วยเสริมสุขภาพให้แข็งแรง
- ขอพรด้านความรักและคู่ครอง
- การเดินข้าม “ศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งความรัก” ในศาลเจ้าจิชุ จะช่วยเสริมดวงด้านความรัก
เทศกาลสำคัญที่จัดขึ้นที่วัดคิโยะมิซุ
- เทศกาลชมดอกซากุระ (Cherry Blossom Viewing)
- จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเมษายน
- เทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสี (Autumn Illumination)
- จัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน-ต้นธันวาคม
- พิธีกรรมโอะโมะซุ (Omosu Festival)
- พิธีกรรมเก่าแก่ที่จัดขึ้นเพื่อขอพรจากพระโพธิสัตว์กวนอิม
เวลาเปิด-ปิด และการเดินทาง
- เวลาเปิดทำการ:
- เปิดทุกวัน 06.00 – 18.00 น.
- ในช่วงเทศกาลพิเศษอาจเปิดถึง 21.00 น.
- ค่าเข้าชม:
- ผู้ใหญ่ 400 เยน
- เด็ก 200 เยน
- การเดินทาง:
- โดยรถไฟ:
- นั่งรถไฟสาย Keihan Line มาลงที่สถานี Kiyomizu-Gojo Station แล้วเดินประมาณ 15 นาที
- โดยรถบัส:
- จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) ขึ้นรถบัสสาย 100 หรือ 206 ลงที่ป้าย Gojo-zaka หรือ Kiyomizu-michi แล้วเดินขึ้นเนินประมาณ 10 นาที
- โดยรถไฟ:
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทาง
- การแต่งกาย:
- ควรใส่รองเท้าที่เดินสบาย เนื่องจากต้องเดินขึ้นเนินและบันไดเยอะ
- ข้อควรปฏิบัติ:
- ปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัด และห้ามถ่ายภาพภายในโถงบูชาหลัก
- ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชม:
- ฤดูใบไม้ผลิ: (มีนาคม-เมษายน) ชมซากุระ
- ฤดูใบไม้ร่วง: (พฤศจิกายน-ธันวาคม) ชมใบไม้เปลี่ยนสี
ทำไมควรไปวัดคิโยะมิซุ
- เป็นวัดที่มีชื่อเสียงระดับโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
- วิวทิวทัศน์สวยงาม และเป็นจุดชมธรรมชาติที่ดีที่สุดในเกียวโต
- สามารถขอพรด้านสุขภาพ ความรัก และความสำเร็จได้ในที่เดียว
วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu-dera) หรือ วัดน้ำใส เป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น หากคุณมาเยือนเกียวโต อย่าพลาดโอกาสในการเดินเล่นบนระเบียงไม้ ชมวิวเมือง และขอพรให้ชีวิตราบรื่นที่วัดแห่งนี้! ⛩✨
